วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบบทดสอบ
เรื่อง วัฒนธรรมกับภาษา



. ข้อใดใช้ภาษาได้เหมาะสมที่สุด
ก.      แหมไม่พบกันเสียนาน  ผอมเหมือนกุ้งแห้งเลย
ข.      อาจารย์คะขอความกรุณาเซ็นชื่อให้หนูหน่อยคะ
ค.      จะไปไหนจ๊ะพ่อหนุ่มหน้าจืดหน้ามืดคนดีของฉัน
ง.       ทำไมเดี๋ยวนี้เธอถึงอ้วนเหมือนกับหมูตอนอย่างนี้
.  ข้อใดมีความหมายสัมพันธ์กับวัฒนธรรม
     . สำเนียงส่อภาษา   กิริยาส่อสกุล
     .  ช้างตายทั้งตัว      เอาใบบัวมีปิด
     .  คบคนให้ดูหน้า     ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ
     .   คบคนพาล   พาลพาไปหาผิด
.  ประโยคในข้อใดใช้คำสแลง
ก.      กบกับเขียดกำลังเป็นวัยรุ่นขาโจ๋
ข.      ติ๋มชอบรับประทานอาหารรสเผ็ด
ค.      ประพิณนั่งชมการแข่งขันกีฬาฟุตบอล
ง.       สุรชัยกำลังทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษ
.  ข้อใดใช้คำได้สุภาพและเหมาะสม
ก.      ฉันไปตลาดไปปิ๊งสาวมาคนหนึ่ง
ข.      เธอน่ะเม้ามากเกินไปแล้วนะ
ค.      ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน เด็ก อย่ามาแจม
ง.       คนไทยเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน
.  ข้อใดใช้ภาษาไม่เหมาะสม
ก.      แม่ค้าตั้งของขายกีดขวางทางจราจร
ข.      เขาขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่
ค.      รถไฟพุ่งออกจากสถานีอย่างเชื่องช้า
ง.       สมศักดิ์ชอบเล่นดนตรีไทย
.  ข้อใดสะท้อนให้เห็น วัฒนธรรมไทย
        .    ขุนช้างปลูกหอสำเร็จพัน     ลาท่านศรีประจันมาจากที่
                ครั้นถึงบ้านพลันทันที          เตรียมขันหมากอึงมี่อยู่วุ่นไป
        .    อย่าเป็นทุกข์ถึงออพิมเลนออแก้ว  ไปแล้วหาให้เป็นอะไรไม่
                ลูกเต้าเขารักษามาแต่ไร                  ด้วงแลงแมงใยมิให้พาน
        .    เอามีค่ำต่ำอกเข้าต้ำอีก                เลือดทะลักแหลมทะลุดลอดสัน
                นางกระเดือกเสือกดิ้นสิ้นชีวิน   เลือดก็ดั้นดาดแดงเหมือนแทงควาย
        .    ครานั้นจึงโฉมเจ้าวันทอง         เศร้าหมองสะอึกสะอื้นไห้
                สวมกอดลูกยาด้วยอาลัย          น้ำตาหลั่งไหลลงรินริน


.  ไม่ฟังสุภาษิตท่านสั่งสอน    มาแสนงอนเชื่อลิ้นด้วยลมหวาน
           ท่านว่ามารยาทของชายชาญ           มีประมาณได้สามสิบสองกล……….
     จากข้อความนี้สะท้อนให้เห็นอย่างไร
ก.      คนไทยไม่ชอบฟังสุภาษิต
ข.      คนไทยไม่ชอบให้ใครสั่งสอน
ค.      คนไทยไม่ชอบสั่งสอนผู้อื่น
ง.       คนไทยมีสุภาษิตสอนใจลูกหลาน
. สื่อสารกับเพื่อนร่วมชาติทั้งมวลได้  ข้อความนี้
หมายถึงข้อใด
     .  ภาษาถิ่น           .   ภาษาปาก
     .  ภาษาสแลง        .   ภาษามาตรฐาน
. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม
ก.      คุณแม่บอกลูกสาวให้พูดจาไพเราะ
ข.      แมนบวชเณรเมื่อปิดภาคเรียน
ค.      ถนอมแต่งกายชุดประจำชาติไปงานเลี้ยง
ง.       นักเรียนทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ
๑๐. ข้อใดเข้าได้กับคำกล่าวที่ว่า คนไทยชอบใช้สัมผัส
คล้องจอง
ก.      เสรีชอบอ่านหนังสือนวนิยายเรื่องเวลาในขวดแก้ว
ข.      สมศักดิ์เป็นนักโต้วาทีที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของ     โรงเรียน
ค.      พวกเราทุกคนชอบเรียนวรรณคดีไทยเพราะสนุกดี
ง.       วิทยาเขียนคำขวัญส่งเข้าประกวดว่า ลูกหลานดี มีวินัย  ไทยรุ่งเรือง
๑๑.     ข้อใดไม่มีภาษาถิ่น
ก.      พินไปดูหนังกันไหมจ๊ะ
ข.      กินส้มตำเผ็ด แซบอีหลี
ค.      อ้าย  ช่วยยกของให้น้องหน่อย
ง.       อุ๊ยคำชอบไปเก็บผักบุ้งที่หนองน้ำ





๑๒. ข้อใดให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างจากข้ออื่น
ก.      ชาวบ้านพากันแห่นาคเวียนรอบโบสถ์
ข.       ฝนแล้งชาวบ้านจึงแห่นางแมวขอฝนอย่างสนุกสนาน
ค.      ลูกหลานพากันไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์
.   วันลอยกระทงตรงกับวันขึ้น  ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒
ของทุกปี         
๑๓.     ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมประเพณี
ก.      แม่ทำบายศรีสู่ขวัญให้เล็ก
ข.      สุขชอบดูหนังตะลุงมาก
ค.      ดวงไปเที่ยวที่ประจวบคีรีขันธ์
ง.       แย้มฝึกรำฟ้อนเล็บของเชียงใหม่
๑๔.     ข้อความ ขุนนางใช่พ่อแม่  หินแง่ในตายาย
     สะท้อนให้เห็นลักษณะการใช้คำข้อใดเด่นชัดที่สุด
ก.      ใช้คำไพเราะ
ข.      ใช้คำที่มีความหมายดี
ค.      ใช้คำที่ทำให้เกิดความรู้สึกได้ดี
ง.       ใช้คำที่แสดงความลดหลั่นในภาษา
๑๕.     จังงังขลังคะนองล่องหน                     ฤทธิรณแรงราวกับราชสีห์
        ถอนอาถรรพณ์กันประกอบประกันมี   เลี้ยงผีพรายกระซิบทุกสิ่งไป
     จากข้อความนี้สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งใด
     .  การเลี้ยงผี         .    คาถานะจังงัง
     .  ปาฏิหาริย์         .    ไสยศาสตร์
๑๖. ข้อใดสะท้อนให้เห็นความไม่เหมาะสม
      .   นี่หรือจะรักกันไปวันหน้า   ถึงที่ว่าจะมาขอก็รอเฉย
      .   เงยหน้าจูบนิดพิมพี่         เป็นเณรดอกหามีอาบัติไม่  
      .   กับข้าวของหวานล้วนดีดี     เลี้ยงกันอึงมี่ทั้งบ้านไป
      .    เปรี้ยวปากหรือหมากเสียสักคำ    เสกซ้ำส่งไปให้ทันที
๑๗.     ข้อใดเป็นภาษามาตรฐาน
ก.      นักเรียนยืนตรงเคารพธงชาติ
ข.      แดงชวนเพื่อน ไปเที่ยวกาด
ค.      น้ำผึ้งชวนคุณแม่ไปแอ่วเมืองเหนือ
ง.       คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเบิ่งแม่น้ำโขง
๑๘.     ข้อใดมิใช่การสืบทอดวัฒนธรรม
ก.      วัชรีฝึกอ่านทำนองเสนาะ
ข.      คุณครูสอนนักเรียนร้องเพลงไทย
ค.      นิยมอ่านวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณี
ง.       ฤทัยชอบดูภาพยนตร์ฝรั่งเศสสยองขวัญ
๑๙.     ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมในความหมายทาง
วิชาการ
     .  การดำเนินชีวิต    .   ทรัพยากรธรรมชาติ
     .  ประเพณีท้องถิ่น  .   สถาบันการศึกษา
๒๐.     คนไทยสามารถร่วมฉลองเทศกาลของชาติอื่นได้อย่างเปิดเผยเพราะเหตุใด
ก.      ความรับสงบ
ข.      เสรีภาพทางศาสนา
ค.      ความพอใจในการประนีประนอม
ง.       ความไม่กีดกันคนต่างชาติต่างภาษา
๒๑.     การที่ลูกสาวมีนิสัยเหมือนแม่ตรงกับสำนวนใด
ก.      ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น
ข.      เดินตามรอยเท้าผู้ใหญ่หมาไม่กัด
ค.      สมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
ง.       คบเด็กสร้างบ้าน  คบหัวล้านสร้างเมือง
๒๒. ข้อใดแสดงการใช้ภาษาอย่างไม่มีวัฒนธรรม
ก.      มีหางเสียง  สำเนียงไพเราะ
ข.      ใช้คำเหมาะตามระดับ ใช้คำศัพท์ตามสถานการณ์
ค.      คำเรียกขานถูกต้อง คำคล้องจองคำพังเพย
ง.       ละเลยคำควบกล้ำ ไม่จดจำเรื่องสัมมาคารวะ
๒๓. ข้อใดมิใช่สาเหตุของความหลากหลายทางวัฒนธรรม
ก.      ที่ตั้ง
ข.      ภูมิอากาศ
ค.      สุขภาพ
ง.       ความอุดมสมบูรณ์หรือความแร้นแค้น
๒๔. นักสังคมศาสตร์ให้ความหมายของคำว่า วัฒนธรรม หมายถึงอะไร
ก.      แบบแผนชีวิต
ข.      ประเพณีต่าง
ค.      สิ่งหนึ่งในโอกาสหนึ่ง
ง.       สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
๒๕. สำนวนใดแสดงให้เห็นว่าคนไทยสมัยก่อนมีค่านิยมชอบอาชีพรับราชการ
ก.      เมื่อน้อยให้เรียนวิชา
ข.      ลูกผู้ชายลามือนั้นคือยศ
ค.      สิบพ่อค้าไม่เท่าพระยาเลี้ยง
ง.       รักดีหามจั่ว  รักชั่วหามเสา          

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

คำอธิบายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
วิชา   ท๓๒๒๐๑  หลักและการใช้ภาษาไทย   จำนวน  ๒๐     ชั่วโมง    จำนวน   ๐.๕   หน่วยกิต

                ศึกษาหลักภาษาไทยเรื่องเสียงและอักษรไทย  คำและกลุ่มคำ  ประโยคชนิดต่าง ๆ เพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจหลักภาษาไทย  สามารถนำความรู้ไปใช้วิเคราะห์การใช้ภาษา   ใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง  อันจะนำไปสู่การอนุรักษ์และพัฒนาภาษาไทย
ตัวชี้วัด
รหัสตัวชี้วัด
ตัวชี้วัด
ท๔.๑ ม๔/๑
๑. อธิบายธรรมชาติของภาษา       พลังของภาษา และลักษณะของภาษา
ท๔.๑ม.๔/๒
๒. ใช้คำและกลุ่มคำสร้างประโยคตรงตามวัตถุประสงค์
ท๔.๑ม.๔/๓
๓. ใช้ภาษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบุคคล รวมทั้งคำราชาศัพท์อย่างเหมาะสม
ท๔.๑ม.๔/๖
๖. อธิบายและวิเคราะห์หลักการสร้างคำในภาษาไทย 
ท๑.๑ม.๔/๙
๙. มีมารยาทในการอ่าน
ท๒.๑ม.๔/๘
๘. มีมารยาทในการเขียน
ท๓.๑ม.๔/๖
๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด


จุดประสงค์การเรียนรู้
๑.      มีความเข้าใจในธรรมชาติของภาษาพูด
๒.    อธิบายลักษณะการออกเสียงพูดและอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการออกเสียงพูดได้
๓.     เข้าใจความสำคัญของอักษรไทยว่าสามารถเขียนแทนเสียงพูดในภาษาไทยได้
๔.     สามารถเขียนสะกดคำได้ถูกต้องตามอักขรวิธี
๕.     อธิบายลักษณะของพยางค์และคำที่ใช้ในภาษาไทย
๖.      บอกคำที่ใช้ในภาษาว่าประกอบด้วยคำมูลและคำที่สร้างขึ้นใหม่จากคำมูล
๗.     อธิบายความแตกต่างของคำมูลพยางค์เดียวและคำมูลหลายพยางค์ได้
๘.     บอกความแตกต่างของชนิดคำที่สร้างขึ้นใหม่ได้ และสามารถใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม
๙.      อธิบายความแตกต่างของคำมูล  คำที่สร้างขึ้นใหม่จากคำมูล  และสามารถนำคำมูลและคำที่สร้างขึ้นใหม่มาใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
๑๐.  อธิบายลักษณะและหน้าที่ของกลุ่มคำประเภทต่างๆ
๑๑. อธิบายโครงสร้างของประโยค  การเรียงประโยค  ในภาษาไทยได้ และนำไปใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมกับโอกาส  กาลเทศะ และบุคคลได้
๑๒. อธิบายโครงสร้างประโยคชนิดต่าง ๆ ที่มีโครงสร้างซับซ้อน
คำอธิบายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
วิชา   ท๓๒๑๐๑  ภาษาไทย   จำนวน  ๔๐     ชั่วโมง    จำนวน      หน่วยกิต
คำอธิบายรายวิชา
                อ่านออกเสียงร้อยแก้วร้อยกรอง  ตีความ แปลความ  และขยายความ วิเคราะห์  วิจารณ์  คาดคะเนเหตุการณ์  ประเมินค่า แสดงความคิดเห็น  โต้แย้ง  เสนอความคิด  ตอบคำถาม  เขียนกรอบแนวคิด  ผังความคิด  บันทึกย่อความและรายงาน  สังเคราะห์ความรู้จากการอ่านเพื่อพัฒนาตน  พัฒนาการเรียนและพัฒนาความรู้ทางอาชีพ   มีมารยาทในการอ่าน
เขียนสื่อสาร  เขียนบันทึก เขียนประกาศ  เขียนกรอกแบบรายการ  เขียนเรียงความ  ย่อความจากสื่อต่าง ๆ  ผลิตงานเขียนในรูปแบบรายการ   ผลิตงานเขียนในรูปแบบทั้งสารคดี และบันเทิงคดี  ประเมินงานเขียน  นำมาพัฒนาตนเอง   เขียนรายงาน ใช้ข้อมูลสารสนเทศอ้างอิง  บันทึกการศึกษาค้นคว้า และมีมารยาทในการเขียน 
สรุปแนวคิด และแสดงความคิดเห็น  วิเคราะห์  แนวคิดการใช้ภาษา  ความน่าเชื่อถือ  ประเมินและมีวิจารณญาณในการฟัง  ดู พูด ต่อที่ประชุมชน  พูดอภิปราย และมีมารยาทในการฟัง ดู และการพูด   
อธิบายลักษณะของภาษา  เสียงในภาษา  ส่วนประกอบของภาษา  องค์ประกอบของพยางค์และคำ การใช้คำและสำนวน 
วิเคราะห์  วิจารณ์ ประเมินค่า สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดี  และวรรณกรรม  รวบรวมวรรณกรรมพื้นบ้านและภูมิปัญญาทางภาษา  ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยาน  และบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ
                เพื่อ  ให้ผู้เรียนมีความรู้  ความเข้าใจ วิเคราะห์  สังเคราะห์  วิจารณ์  ประเมินค่า  ทักษะทางภาษา  สามารถนำไปพัฒนาตนเองพัฒนาการเรียน และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง  เหมาะสม และเห็นคุณค่าของภาษาไทย
                รหัสตัวชี้วัด
                ท๑.๑ ม๕/๑     ท๑.๑ ม๕/๒     ท๑.๑ ม๕/๓     ท๑.๑ ม๕/๔    ท๑.๑ ม๕/๕    ท๑.๑ ม๕/๖
ท๑.๑ ม๕/๗        ท๑.๑ ม๕/๘        ท๑.๑ ม๕/๙
                ท๒.๑ ม๕/๑    ท๒.๑ ม๕/ ๒    ท๒.๑ ม๕/๓   ท๒.๑ ม๕/๔    ท๒.๑ ม๕/๕    ท๒.๑ ม๕/๖       
ท๒.๑ ม๕/๗     ท๒.๑ ม๕/๘
                ท๓.๑ ม๕/๒     ท๓.๑ ม๕/๔   ท๓.๑ ม๕/๕    ท๓.๑ ม๕/๖
                ท๔.๑ ม๕/๑      ท๔.๑ ม๕/๒  
                ท๕.๑ ม๕/๑     ท๕.๑ ม๕/๒    ท๕.๑ ม๕/๓    ท๕.๑ ม๕/๔   ท๕.๑ ม๕/๕   ท๕.๑ ม๕/๖