แบบทดสอบ
๑. ข้อใดใช้คำที่ทำให้เกิดความรู้สึกได้ดีที่สุด
ก. บานทวารลานแลล้วนลายมุกน่าสนุกในกระหนกดูผกผัน
ข. แม้นกลับชาติเกิดใหม่เป็นกายคนชื่อว่าจนแล้วจงจากกำจัดไกล
ค. สงัดเสียงคนดังระฆังเงียบ เย็นยะเยียบยามนอนริมเนินผา
ง. ถ้ารักใครขอให้ได้คนนั้นด้วยบุญจงช่วยปฏิบัติอย่าขัดขวาง
ข้อ ๒-๓ ให้พิจารณาหาคำเติมในช่องว่างให้เหมาะสม
“ ข้อ ๒ หมายถึง ข้อ ๓ ที่ร่างกายได้รับสารอาหารแล้วนำไปสร้างหรือเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ร่างกายใช้เพื่อการดำรงชีวิต รวมถึงการกิน การย่อยอาหาร การดูดซึม และการที่ร่างกายนำสารอาหารไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเจริญเติบโต”
๒. ก. กรรมพันธุ์
ข. อนามัย
ค. โภชนาหาร
ง. โภชนาการ
๓. ก. ขบวน
ข. กระบวน
ค. กระบวนการ
ง. ขบวนการ
ข้อ ๔-๕ ให้พิจารณาหาคำเติมในช่องว่างให้เหมาะสม
“พระยาราชสงครามได้เห็นปัญหาแล้ว ถวายความเห็นว่าควรจะ ข้อ ๔ องค์พระจากริมฝั่งแม่น้ำไป ข้อ ๕ ณ ที่ไกลออกไป”
๔. ก. เข็น
ข. ดึง
ค. ชักจูง
ง. ชักลาก
๕. ก. สถิต
ข. ประทับ
ค. ประดิษฐาน
ง. พำนัก
๖. ข้อใดใช้คำผิดความหมาย
ก. เมื่อเรานั่งพับขาไว้นาน ๆ ก็มักจะเป็นโรคเหน็บชา
ข. อย่าสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยตั้งความหวังว่าจะได้รับคำยกย่อง
ค. หลักสูตรดังกล่าวมุ่งผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้ประชาชนและสังคม
ง. กระท่อมน้อยไม่มีให้เห็นแล้ว แต่กลับมีคฤหาสน์หลังมหิมาตั้งตระหง่านอยู่แทนที่
๗. ข้อใดใช้คำไม่ถูกต้องตรงตามความหมาย
ก. พระธาตุดอยตุงเป็นที่สักการะของประชาชนทั่วไป
ข. นักเรียนทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์ชื่อเสียงของโรงเรียน
ค. เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้สันนิษฐานว่าบริเวณนี้แต่เดิมคงเป็นป่าดงดิบ
ง. เราไม่ควรทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงในแม่น้ำลำคลอง
๘. ข้อใดใช้คำไม่เหมาะสมกับระดับภาษา
ก. ทั้งมนุษย์และสัตว์ต่างก็มีความรู้สึก
ข. บิดาและมารดาอยากจะให้เอ็งไปเรียนต่อมากที่สุด
ค. ความโกรธเป็นสิ่งไม่ดีทำให้เกิดผลร้ายหลายประการ
ง. ทุกคนนั่งล้อมวงกินข้าวมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
๙. ขวัญถอนใจฮวบ ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดี พ่อก็ยังนอนซมซานด้วยพิษไข้ลูกไม่ขึ้น แม่ก็ต้องดูแลพ่อ ไปทำงานไม่ได้”
จากข้อความนี้ คำใดใช้ไม่เหมาะสม
ก. ฮวบ
ข. ครุ่นคิด
ค. ซมซาน
ง. ข้อ ๑ และข้อ ๓
๑๐. ข้อใดมี่การใช้คำที่มีความหมายตรงข้ามกัน
ก. รับขวัญวันเด็ก หนูเล็กหนูใหญ่
ข. ทายาทาชาติไทย มั่นในใจจินต์
ค. ไทยรัฐจัดงาน วานหนูจารึกถวิล
ง. แผ่นดินสุดท้าย รักษาให้ดี
๑๑. ข้อดีมีการใช้คำที่มีความหมายตรงข้ามกัน
ก. ชีวิตเยาวชนเป็นชีวิตแห่งการเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่าง
ข. ปลายทางของผู้ใหญ่ แต่เป็นต้นทางของผู้น้อย
ค. นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำและบำบัดน้ำเสีย
ง. มหาวิทยาลัยมีโครงการขยายศูนย์การเรียนไปยัง ภูมิภาคต่าง ๆ
๑๒. “ทั้งคู่เดินกึ่งวิ่งมาถึงหน้าตลาด รีบโกยกองขยะที่หมกมุ่นมาตั้งแต่เมื่อคืน คิดแต่ว่าจะต้องรีบทำให้สะอาดก่อนที่หัวหน้างานจะมาตรวจ”
ข้อใดกล่าวถึงการใช้คำในข้อความนี้ได้ถูกต้อง
ก. มีการใช้คำซ้ำ
ข. มีการใช้ค่ำที่มีความหมายแคบกว้าง
ค. ส่วนใหญ่ใช้ภาษาระดับแบบแผน
ง. มีการใช้คำที่แสดงอาการเคลื่อนไหว
๑๓. จากข้อความในข้อ ๑๒ คำใดใช้ไม่เหมาะสม
ก. เดินกึ่งวิ่ง
ข. รีบโกย
ค. หมกมุ่น
ง. หัวหน้างาน
๑๔. ข้อใดใช้คำซ้ำเพื่อย้ำความหมาย
ก. รับขวัญวันเลิศ ก่อเกิดพลังใจ
ข. ลูกไทยหลานไทย สายเลือดกล้าหาญ
ค. คุณธรรมนำจิต ชีวิตชื่นบาน
ง. ศึกษาอย่าคร้าน กิจการพึงทำ
๑๕. ข้อใดใช้คำซ้ำแล้วแสดงความเป็นพหูพจน์
ก. แก้วออกไปเล่นแถว ๆ หน้าบ้านของเธอ
ข. โต้งรู้ว่าวันนี้ไม่เหมือนกับวันก่อน ๆ เสียแล้ว
ค. ไม่ทิ้งขยะมูลฝอยลงในแหล่งน้ำ แม้แต่แอ่งน้ำเล็ก ๆ
ง. ถ้าน้องๆ ช่วยกันเสียแต่วันนี้ปัญหาต่าง ๆ ก็จะหมดไป
๑๖. “แก้วและเก่งต่างนอนไม่หลับ…….ต่างออกจากบ้านมาที่ลานว่างกลางหมู่บ้าน”
ควรเติมคำใดที่มีความหมายเกี่ยวเนื่องกับคำอื่นอย่างเหมาะสม
ก. เพราะ
ข. ด้วย
ค. จึง
ง. เนื่องจาก
๑๗. ข้อใดมีการหลากคำใช้
ก. อย่าได้คิดน้อยใจในวาสนา ถ้าหากเรายังไม่ก้าวหน้าสมมุ่งหมาย
ข. ขัดห้าง หมายถึง เอาไม้มาทำที่อาศัยบนต้นไม้เพื่อดักรอยิงสัตว์
ค. เราไม่ควรทำสิ่งที่ขัดต่อประเพณี ไม่ฝ่าฝืนกฎระเบียบและไม่ควรทำผิดกฎหมาย
ง. ขัดเกลาความคิดจิตใจให้ประณีตให้สุจริตแจ่มใสและเฉลียวฉลาดมีเหตุผล
๑๘. “ร่างกายแข็งแรงมีพลังสมบูรณ์ได้…….การออกกำลังการสม่ำเสมอ”
ควรเติมคำใดที่มีความหมายเกี่ยวเนื่องกับคำอื่นอย่างเหมาะสม
ก. จึง
ข. มิฉะนั้น
ค. ดังนั้น
ง. เพราะ
๑๙. “อัมพาต เป็นโรคที่เกิดขึ้น………สมองส่วนใดส่วนหนึ่งถูกทำลาย”
ควรเติมค่ำใดที่มีความหมายเกี่ยวเนื่องกับคำอื่นอย่างเหมาะสม
ก. จึง
ข. ดังนั้น
ค. เนื่องจาก
ง. เพราะฉะนั้น
๒๐. คำที่พิมพ์ด้วยตัวหนาข้อใดไม่ได้มีความหมายโดยตรง
ก. พุทธศาสนิกชนควรไปทำบุญตักบาตรที่วัด
ข. หัวใจต้องเปิดธนาคาร บริการฝากรักทั่วไป
ค. ยามเธอห่างไกลลับตา เฝ้าคอยห่วงหาทุกข์ร้อนใจ
ง. การอ่านหนังสือช่วยให้เรามีความรู้และความเพลิดเพลิน
๒๑. ข้อใดมีการใช้คำที่แส่ดงลำดับขั้นตอน
ก. โรยพริกไทยป่นเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความหอม
ข. เอาต้นหอมวางเรียงด้วยเพื่อเสริมความอร่อยยิ่งขึ้น
ค. ต่อจากนั้นจัดการทำขิงดองก่อนเพื่อรอเวลาการหมักไก่
ง. อย่าลืมเด็ดใบผักชีใส่ เพื่อจะได้ดูสวยงามน่ารับประทาน
๒๒. ข้อใดใช้คำสื่อสารไม่เหมาะสม
ก. แม่คะ ไหนแม่ว่าจะซื้อแหวนให้หนูไงล่ะคะ
ข. ในวันหยุด เราไปเดินซื้อของตามห้างสรรพสินค้า
ค. ลูกว่าคุณพ่อก็เก่งเหมือนกัน ความรู้ไม่เลวทีเดียว
ง. ปีนี้น้ำไม่ดีเลยนะพ่อ ผมว่าพ่อเลิกทำแล้วให้เขาเช่านาดีกว่า
๒๓. “ดาว” ในข้อใดไม่ได้มีความหมายตามตัว
ก. เรามองเห็นดาวพระศุกร์ได้ในเวลาเช้ามืด
ข. ดาวมหาวิทยาลัยดวงนี้สวยจริง ๆ งามไม่มีที่ติเลย
ค. คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด มองเห็นดวงดาวทอแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า
ง. โลกเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง หมุนรอบตัวเองและโคจรรอบดวงอาทิตย์
๒๔. ข้อใดใช้คำที่มีความหมายแคบกว้าง
ก. การจัดโต๊ะหมู่บูชา ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งของ ชาวพุทธ
ข. วันครูได้จัดให้มี่ขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๐
ค. กิจกรรมที่ควรปฏิบัติในวันวิสาขบูชา คือตักบาตร ไปเวียนเทียน
ง. สหประชาชาติเป็นองค์การระหว่างประเทศมี วัตถุประสงค์เพื่อนำสันติภาพมาสู่ชาวโลก
๒๕. คำที่พิมพ์ตัวหนาในข้อใดมีความหมายกำกวม
ก. คุณพ่อซื้อเก้าอี้ตัวไม่หลายตัว
ข. เขาทำงานหนักจนกล้ามเนื้อแขนอักเสบ
ค. ขออย่าทำร้ายสัตว์ป่าพรากสัตว์แม่ลูกอีกเลย
ง. สาวน้อยคนนี้เป็นเด็กของป๋านะ อย่าไปยุ่ง